| ๑.  จัดเตรียมสถานที่และทำความสะอาดบริเวณที่จัดให้เรียบร้อย๒.  เชิญหัวโขนหรือศีรษะครู 
        ทั้งที่เป็นเทพเจ้า เทวดา ฤาษี และคนธรรพมาประดิษฐาน เพื่อเป็นประธานตั้งไว้บนโต๊ะที่เตรียมพร้อมแล้ว
 ๓.  นิมนต์พระภิกษุ 
        จำนวน ๙ รูป มาทำพิธีสวดมนต์เย็นเพื่อความเป็นสิริมงคล ในบริเวณสถานที่ที่จัดไว้ในตอนเย็น 
        และนิมนต์มาทำพิธีอีกครั้งในตอนเช้าวันรุ่งขึ้นก่อนเริ่มพิธีไหว้ครู
 ๔.  จัดเครื่องกระยาบวช เครื่องสังเวย เครื่องสักการะ มีดอกไม้ 
        ธูปเทียน
 เครื่องสังเวยจะจัดออกเป็น ๓ ชุด คือ
 - ส่วนของพระมหาเทพ เทวดา นางฟ้า เป็นอาหารสุก
 - ส่วนของพระครูฤาษี พระปรคนธรรพ เป็นอาหารสุก
 - ส่วนของพระพิราพ ซึ่งเป็นเทพอสูร เป็นอาหารดิบ
 ๕.  เชิญประธานจัดงานมาจุดธูปเทียนบูชาครู  ครูผู้ประกอบพิธีแต่งชุดขาว 
        อ่านโองการเชิญครูต่างๆ มาร่วมในพิธี
     "พิธีไหว้ครู" 
        หมายถึง การสำรวมใจระลึกถึงพระคุณของบรมครูที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ให้แก่ศิษย์ 
        และพร้อมใจกันเปล่งเสียงวาจาด้วยความเคารพที่ครูผู้กระทำพิธีอ่านโองการ๖.  ดนตรีบรรเลงเพลงหน้าพาทย์แต่ละเพลงตามที่ครูผู้ประกอบพิธีจะเรียกเพลง 
        หลังจากที่อ่านโองการเชิญครูปัธยายแต่ละองค์แล้ว
 ๗.  ครูผู้ประกอบพิธีกล่าวถวายเครื่องเซ่นสังเวยต่างๆ ที่ได้จัดมา 
        เสร็จแล้วกล่าวลาเครื่องเซ่นสังเวย
 ๘.  ผู้มาร่วมงานรำถวายเพื่อบูชาครู ซึ่งนิยมรำเพลงช้า-เพลงเร็ว 
        เพลงหน้าพาทย์ชั้นสูงบางเพลง เช่น ตระนิมิตร ตระบองกัน คุกพาทย์ เป็นต้น
 ๙.  ครูผู้ประกอบพิธี ทำพิธีครอบให้ศิษย์ที่มาร่วมงาน โดยนำศีรษะครูมาครอบให้ 
        ๓ ศีรษะ คือ
 -  ศีรษะพระครูฤาษี อันเป็นสัญลักษณ์ครูทั่วไป
 -  ศีรษะพระพิราพ อันเป็นสัญลักษณ์ครูโขน
 -  ศีรษะเทริดโนห์รา อันเป็นสัญลักษณ์ครูละคร
     "พิธีครอบครู" 
        หมายถึง การนำศีรษะครูมาครอบ (รับเป็นศิษย์) และครูจะคอยควบคุมรักษา ครูจะอยู่กับศิษย์คอยช่วยเหลือให้ศิษย์มีความจำในกระบวนการรำ 
        จังหวะดนตรี หากมีสิ่งใดที่ไม่งามจะเกิดขึ้นกับศิษย์ ครูจะช่วยปัดเป่าให้พ้นจากตัวศิษย์ 
        ทำให้ผู้เรียนมีกำลังใจ มีความมั่นใจมากขึ้น และพิธีครอบครูนั้น ผู้ศึกษานาฏศิลป์ทุกคนถือว่าเป็นพิธีสำคัญ 
        และจำเป็นสำหรับผู้ที่ศึกษาปฏิบัติท่ารำที่อยู่ในระดับสูง เช่น การรำเพลงหน้าพาทย์ 
        ก่อนจะรำผู้ศึกษาจะต้องผ่านพิธีครอบครูก่อนจึงจะต่อท่ารำได้๑๐.  ลูกศิษย์นำขันกำนล มีดอกไม้ ธูปเทียน ผ้าเช็ดหน้าขาว เงินกำนลครู 
        ๒๔ บาท (อาจแตกต่างกันไป มีตั้งแต่ ๖ บาท ๑๒ บาท ๒๔ บาท หรือ ๓๖ บาท)  ผู้ที่ได้รับครอบถือว่าเป็นศิษย์ที่มีครูแล้ว 
        และในวงการนาฎศิลป์ได้รับคนผู้นี้เป็นนาฎศิลป์โดยสมบูรณ์
 ๑๑.  ลูกศิษย์ที่จะจบออกจากสถาบันเป็นปีสุดท้าย จะเข้ารับมอบ โดยครูผู้ประกอบพิธีจะส่งศรพระขันธ์ให้กับศิษย์ผู้นั้นรับไว้ 
        เปรียบเสมือนการขออนุญาตเพื่อไปสอนศิษย์ต่อไป
      "พิธีมอบ" 
        เป็นขั้นตอนที่สูงที่สุด หมายถึง การได้รับการมอบความรู้ความเป็นครู ผู้สืบทอดการอบรมสั่งสอนในสมัยที่ยังไม่มีปริญญาบัตรเป็นเครื่องกำหนดความรู้ 
        ครูผู้สอนวิชานาฏศิลป์จะพิจารณาว่า ศิษย์คนใดมีความรู้ในวิชานาฏศิลป์มีฝีมือในการรำยอดเยี่ยม 
        จนถือเป็นแบบแผนที่ดีได้ และมีความประพฤติเรียบร้อย เหมาะสมที่จะเป็นครูสืบทอดความเป็นผู้รู้ให้กับผู้อื่นได้ต่อไป  การมอบนั้น 
        ครูผู้กระทำพิธีจะรวบรวมบรรดาอาวุธทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการแสดงโขน-ละคร 
        เช่น พระขรรค์ ดาบ หอก ธนู รวมทั้งบทละคร มัดรวมไว้ และครูจะภาวนาคาถาประสิธิ์ประสาทความเป็นผู้รู้ 
        และส่งมัดอาวุธให้ศิษย์ได้น้อมรับ ๑๒.  ครูผู้ประกอบพิธีจะเจิมหน้าผาก ประพรมน้ำมนต์ พร้อมให้ของที่ระลึก(ถ้ามี) 
        และกล่าวคำอวยพรให้กับศิษย์ทุกคนที่เข้าพิธีไหว้ครู
 ๑๓.  ศิษย์ทุกคนจะรำส่งครู ซึ่งนิยมรำโปรยข้าวตอกดอกไม้เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อไป
 
 |